วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

กระเป๋ารั่ว


        เดี๋ยวนี้พอผ่านพ้นช่วงปีใหม่ทีไร ผมก็คิดทุกครั้งว่าอายุเพิ่มขึ้นอีกปีแล้วสินะ คิดแล้วก็เหลือเชื่อ มองย้อนกลับไปในวันที่อายุ 18 ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งผมจะกลายเป็นชายวัยกลางคน พุงพลุ้ย มีปัญหาผมบาง เหนื่อยง่าย ขึ้นบันไดไม่กี่ชั้นก็หอบแฮ่กๆ 
        
        อาการแบบนี้มันฟังดูไกลตัวมากๆ มันไม่น่าเป็นเรื่องที่จะเกิดกับผมได้เลย แต่แล้วเวลาก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม เด็กหนุ่ม 18 ในวันนั้นกลายมาเป็นหนุ่มใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

        สามสิบกว่าปีที่ผ่านมา ผมเจออะไรมาบ้าง ได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง ผมนั่งทบทวนกับตัวเองเงียบๆ คนเดียว ได้คำตอบว่าเยอะ เยอะจนอยากจะทำเป็นคู่มือ “สิ่งที่ควรจะรู้ไว้ก่อนที่จะอายุสามสิบ” 
        อาทิ 
        อย่าซีเรียสกับเรื่องเรียนมาก เอาแค่ผ่านก็พอ
        เวลาช่วงเรียนมหาวิทยาลัยคือช่วงเวลาที่เราควรเต็มที่กับชีวิต
        เลือกงานโดยมองระยะยาวว่างานนั้นจะนำเราไปสู่อะไร อย่าเลือกงานเพราะความชอบ ความง่าย หรือตรงกับที่จบม
        รักษาสายสัมพันธ์ของคนทุกคนที่เรารู้จักไว้ให้นานๆ เพราะมันจะมีประโยชน์ในอนาคต 
        จะเลือกแฟนที่หน้าตาก็ได้ แต่จงเลือกคู่ชีวิตจากนิสัยและความคิด
        เวลามีค่ามาก เพราะเราไม่ได้เป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดไป
        ลงหลักปักฐานให้ได้ก่อนสามสิบจะดีมาก เพราะหลังจากนั้นเราจะเริ่มหมดแรงกับชีวิต 
        ดอกเบี้ยบ้านแพงกว่าดอกเบี้ยรถมากๆ ขนาดที่ว่าบ้านสองล้านกลายเป็นบ้านห้าล้านได้ ถ้าผ่อนสามสิบปี
        อย่าเครียดกับชีวิต แต่ก็อย่าถึงกับไม่คิดอะไรกับมันเลย
        ถ้าอยากเข้าใจพ่อแม่ จงมีลูก ถ้าอยากเข้าใจลูก จงนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ 
        ฯลฯ

        แต่คิดไปคิดมาผมคงมิบังอาจเขียนคู่มือที่ว่า เพราะชีวิตใครก็ชีวิตมัน สูตรสำเร็จคงไม่มีตายตัว บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมคิด ถึงแม้ว่าลึกๆ ผมก็ยังเชื่อนะครับว่าถ้าคนรุ่นหลังได้อ่านประสบการณ์ของคนที่เคยผ่านชีวิตมาก่อน บางทีก็อาจจะไม่ต้องลองผิด แต่ลองถูกได้เลย (ถึงแม้ว่าบางประสบการณ์จะต้องเจอกับตัวเองถึงจะรู้ซึ้งก็ตาม)

        หันกลับไปมอง ผมพบว่าเพื่อนที่เราเคยคิดว่าซี๊ปึ้กกันสุดๆ จนน่าจะคบกันไปตลอดชีวิต วันนี้ก็นานๆ เจอกันที ต่างคนต่างมีทาง บางคนที่เราเคยนึกไม่ชอบใจ วันนี้ก็เข้าใจเขามากขึ้นว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง หรือบางอย่างที่เคยเชื่อสุดใจ วันนี้ก็กลับไม่คิดไม่เชื่ออย่างนั้นแล้ว

        ถ้าเปรียบเทียบวันแต่ละวันที่เรามีเท่ากับเงินหนึ่งบาท และถ้าผมมีอายุขัยถึง 70 ปี ผมก็จะมีเงินทั้งสิ้น 25,550 บาท ซึ่งตอนนี้ผมใช้ไปไม่น้อย และเหลือเงินในกระเป๋าอีกหมื่นกว่าบาทเท่านั้น 

        สิ่งที่แย่ก็คือกระเป๋าใบนี้มันรั่ว ไม่ว่าเราจะใช้หรือไม่ใช้ เงินมันก็จะรั่วออกจากกระเป๋าวันละหนึ่งบาททุกครั้งไป
คำถามก็คือ แล้วผมควรใช้เงินแต่ละบาทไปกับอะไรดี?
ผมควรจะใช้ชีวิตแต่ละวันไปกับอะไรดี?

        ใช้ชีวิตแบบโลดโผน ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ใช้ชีวิตคิดถึงอนาคต ใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง ใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น ใช้ชีวิตในเมือง ใช้ชีวิตต่างจังหวัด ใช้ชีวิตอย่างทะเยอทะยาน ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ใช้ชีวิตหรือให้ชีวิตมันใช้เรา?

        วันนี้ยังไม่รู้จริงๆ ครับ คิดออกแล้วจะมาบอก ฝากการบ้านให้ช่วยคิดด้วยนะครับ ผมหมายถึงชีวิตของคุณ ไม่ใช่ของผม

        เพราะกระเป๋าคุณก็รั่วเหมือนผมนะครับ 
        อย่าทำเป็นเล่นไป ระวังหมดตัว จะหาว่าไม่เตือน!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น