เดี๋ยวนี้พอผ่านพ้นช่วงปีใหม่ทีไร ผมก็คิดทุกครั้งว่าอายุเพิ่มขึ้นอีกปีแล้วสินะ คิดแล้วก็เหลือเชื่อ มองย้อนกลับไปในวันที่อายุ 18
ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าวันหนึ่งผมจะกลายเป็นชายวัยกลางคน พุงพลุ้ย มีปัญหาผมบาง
เหนื่อยง่าย ขึ้นบันไดไม่กี่ชั้นก็หอบแฮ่กๆ
อาการแบบนี้มันฟังดูไกลตัวมากๆ
มันไม่น่าเป็นเรื่องที่จะเกิดกับผมได้เลย
แต่แล้วเวลาก็ทำหน้าที่ของมันได้อย่างดีเยี่ยม
เด็กหนุ่ม 18
ในวันนั้นกลายมาเป็นหนุ่มใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สามสิบกว่าปีที่ผ่านมา
ผมเจออะไรมาบ้าง ได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง
ผมนั่งทบทวนกับตัวเองเงียบๆ
คนเดียว ได้คำตอบว่าเยอะ เยอะจนอยากจะทำเป็นคู่มือ
“สิ่งที่ควรจะรู้ไว้ก่อนที่จะอายุสามสิบ”
อาทิ
อย่าซีเรียสกับเรื่องเรียนมาก
เอาแค่ผ่านก็พอ
เวลาช่วงเรียนมหาวิทยาลัยคือช่วงเวลาที่เราควรเต็มที่กับชีวิต
เลือกงานโดยมองระยะยาวว่างานนั้นจะนำเราไปสู่อะไร
อย่าเลือกงานเพราะความชอบ
ความง่าย หรือตรงกับที่จบม
รักษาสายสัมพันธ์ของคนทุกคนที่เรารู้จักไว้ให้นานๆ
เพราะมันจะมีประโยชน์ในอนาคต
จะเลือกแฟนที่หน้าตาก็ได้
แต่จงเลือกคู่ชีวิตจากนิสัยและความคิด
เวลามีค่ามาก
เพราะเราไม่ได้เป็นหนุ่มเป็นสาวตลอดไป
ลงหลักปักฐานให้ได้ก่อนสามสิบจะดีมาก
เพราะหลังจากนั้นเราจะเริ่มหมดแรงกับชีวิต
ดอกเบี้ยบ้านแพงกว่าดอกเบี้ยรถมากๆ
ขนาดที่ว่าบ้านสองล้านกลายเป็นบ้านห้าล้านได้
ถ้าผ่อนสามสิบปี
อย่าเครียดกับชีวิต
แต่ก็อย่าถึงกับไม่คิดอะไรกับมันเลย
ถ้าอยากเข้าใจพ่อแม่
จงมีลูก ถ้าอยากเข้าใจลูก
จงนึกถึงตัวเองตอนเด็กๆ
ฯลฯ
แต่คิดไปคิดมาผมคงมิบังอาจเขียนคู่มือที่ว่า เพราะชีวิตใครก็ชีวิตมัน
สูตรสำเร็จคงไม่มีตายตัว
บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมคิด
ถึงแม้ว่าลึกๆ
ผมก็ยังเชื่อนะครับว่าถ้าคนรุ่นหลังได้อ่านประสบการณ์ของคนที่เคยผ่านชีวิตมาก่อน
บางทีก็อาจจะไม่ต้องลองผิด
แต่ลองถูกได้เลย
(ถึงแม้ว่าบางประสบการณ์จะต้องเจอกับตัวเองถึงจะรู้ซึ้งก็ตาม)
หันกลับไปมอง
ผมพบว่าเพื่อนที่เราเคยคิดว่าซี๊ปึ้กกันสุดๆ
จนน่าจะคบกันไปตลอดชีวิต
วันนี้ก็นานๆ เจอกันที
ต่างคนต่างมีทาง
บางคนที่เราเคยนึกไม่ชอบใจ
วันนี้ก็เข้าใจเขามากขึ้นว่าแต่ละคนก็มีเหตุผลของตัวเอง
หรือบางอย่างที่เคยเชื่อสุดใจ
วันนี้ก็กลับไม่คิดไม่เชื่ออย่างนั้นแล้ว
ถ้าเปรียบเทียบวันแต่ละวันที่เรามีเท่ากับเงินหนึ่งบาท
และถ้าผมมีอายุขัยถึง 70 ปี ผมก็จะมีเงินทั้งสิ้น
25,550
บาท
ซึ่งตอนนี้ผมใช้ไปไม่น้อย และเหลือเงินในกระเป๋าอีกหมื่นกว่าบาทเท่านั้น
สิ่งที่แย่ก็คือกระเป๋าใบนี้มันรั่ว
ไม่ว่าเราจะใช้หรือไม่ใช้
เงินมันก็จะรั่วออกจากกระเป๋าวันละหนึ่งบาททุกครั้งไป
คำถามก็คือ
แล้วผมควรใช้เงินแต่ละบาทไปกับอะไรดี?
ผมควรจะใช้ชีวิตแต่ละวันไปกับอะไรดี?
ใช้ชีวิตแบบโลดโผน
ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย
ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน
ใช้ชีวิตคิดถึงอนาคต
ใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง
ใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น
ใช้ชีวิตในเมือง ใช้ชีวิตต่างจังหวัด
ใช้ชีวิตอย่างทะเยอทะยาน
ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง
ใช้ชีวิตหรือให้ชีวิตมันใช้เรา?
วันนี้ยังไม่รู้จริงๆ
ครับ คิดออกแล้วจะมาบอก
ฝากการบ้านให้ช่วยคิดด้วยนะครับ
ผมหมายถึงชีวิตของคุณ
ไม่ใช่ของผม
เพราะกระเป๋าคุณก็รั่วเหมือนผมนะครับ
อย่าทำเป็นเล่นไป ระวังหมดตัว
จะหาว่าไม่เตือน!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น