ถ้าจะมีเพลงรักเพลงไหนสักเพลงที่ผมพอจะนึกออกว่ามีเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่มากๆ
ไม่ใช่อกหักฟูมฟายแบบวัยรุ่น
เพลงนั้นก็น่าจะเป็นเพลง "รักต้องสู้" ของ แอ๊ด คาราบาว
ผมชอบท่อนหนึ่งในเพลงนี้ที่บอกว่า
“อันความรักเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยในชีวิตคนเรา”
จำได้ว่าเมื่อครั้งที่ฟังเพลงนี้ในปี
2532
หรือ
23 ปีมาแล้ว
ตอนนั้นผมยังละอ่อนเกินกว่าที่จะเข้าใจความหมายของเพลงนี้
(แถมยังรู้สึกตะหงิดๆ
กับเนื้อเพลงอีกท่อนที่ว่า
“วันนี้เราเจ็บอย่างไร
วันต่อไปอาจเจ็บกว่านี้”
ว่าตกลงนี่มันปลอบใจหรือซ้ำเติมกันแน่?)
พอมาถึงช่วงที่ผมเรียนมหาวิทยาลัย
เพลงนี้ก็กลับเข้ามาในห้วงคำนึงอีกครั้ง
วันนั้นผมยิ่งไม่เข้าใจใหญ่ว่าทำไมน้าแอ๊ดเขาถึงบอกว่า
“อันความรักเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยในชีวิตคนเรา”
เพราะสำหรับผมในตอนนั้นซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่น
ความรักมันเป็นเรื่องใหญ่มากๆ
โดยเฉพาะตอนที่เราอกหัก
ล่าสุดเพลงนี้กลับมาในความคิดผมอีกครั้ง
เพราะมีสองเหตุการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันเข้ามาในชีวิตผม
เหตุการณ์แรก
รุ่นน้องคนหนึ่งที่ผมรู้จักเลิกกับแฟน
ทั้งคู่ทะเลาะกันรุนแรงและตัดสินใจแยกทางกัน
หลังจากที่คบกันมาเกือบสี่ปี
สาเหตุเนื่องจากเหตุผลคลาสสิกที่ว่าความคิดไม่ตรงกัน
ไม่มีเวลาให้กัน
ฝ่ายชายไปมีผู้หญิงใหม่ในทันที
ในขณะที่ฝ่ายหญิงซึ่งเป็นฝ่ายที่ผมรู้จักนั้นเธอทำร้ายทำลายตัวเองให้หมดคุณค่าไปเรื่อยๆ
นั่งร้องไห้ จมจ่อมอยู่ในความคิด
ตกเย็นก็ไปหาร้านเพื่อเมาจะได้ลืมว่าเขาไปมีคนใหม่แล้ว
ทำเหมือนกับว่าชีวิตนี้ไม่มีคุณค่าอีกต่อไปแล้ว
นาทีแรกๆ
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเป็นได้ถึงเพียงนี้
ผมอยากจะบอกน้องเขาว่า
“อันความรักเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยในชีวิตคนเรา”
แต่นาทีต่อๆ มาก็นึกขึ้นมาได้ว่า
ในวัยของเธอ เรื่องรักนั้นใหญ่กว่าชีวิตมากๆ
ปล่อยให้เธอเศร้าให้พอ
บางทีเธออาจจะเข้าใจสักวันนึงว่า
“วันนี้เราเจ็บอย่างไร
วันต่อไปอาจเจ็บกว่านี้”
ผมไม่ควรจะเอาความคิดของผมไปตัดสินใคร
เหตุการณ์ที่สอง
สืบเนื่องจากที่ผมเป็นมนุษย์เฟซบุ๊กติดงอมแงม
ต้องเข้าไปอัพเดททุกวัน แล้ววันหนึ่งไม่รู้อะไรดลใจผมให้ลองค้นหาชื่อของผู้หญิงที่ผมเคยรู้สึกดีๆ
ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่ผ่านมา
ซึ่งก็ปรากฏว่าเจอจริงๆ
ผมลองกดปุ่มขอเธอเป็นเพื่อน
เธอตอบรับมาในวันถัดมา
ผมจึงได้รู้ว่าเธอแต่งงานไปแล้ว
แวบแรกผมรู้สึกเฉยๆ
เพราะผมเองก็แต่งงานแล้วเหมือนกัน
แต่พอได้ดูวิดีโองานแต่งงานของเธอที่เธอโพสต์ไว้
ผมนั่งดู
เห็นภาพงานตั้งแต่เช้าที่เจ้าบ่าวมาขอเจ้าสาว เรื่อยไปจนถึงงานตอนเย็นที่บนเวทีเจ้าบ่าวจะต้องหอมเจ้าสาวเป็นพิธี
แล้วความรู้สึกแปลกๆ
บางอย่างก็เข้ามาในใจผม
ผมก็แค่คิดว่าที่ตรงนั้น
ที่ตรงข้างๆ เจ้าสาว
มันเคยเกือบได้เป็นที่ของผม
เปล่านะครับ
เปล่า ผมไม่มีความคิดเสียดายหรืออยากจะกลับไปคบกับเธออีก
(ถ้าบังเอิญภรรยาผมมาอ่าน
เค้าเปล่านะตัวเอง
เค้ารักตัวเองที่สู้ดดด
จุ๊บๆ)
เพียงแต่คิดขึ้นมาว่า
วันนั้นผมเจ็บปวดฟูมฟายเมามายไม่ต่างจากน้องผู้หญิงที่ผมเล่าให้ฟัง
แต่วันนี้กลับเฉยๆ
ที่เห็นเธอแต่งงานไปแล้ว
(แถมยังหัวเราะไปกับวิดีโอพรีเซนเทชั่นที่เล่าเรื่องว่าทั้งคู่เจอกันได้อย่างไรได้ตลกมากๆ)
วันนี้ผมคิดว่าผมเข้าแล้วล่ะครับว่า
“อันความรักเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อยในชีวิตคนเรา”
ที่น้าแอ๊ดแกพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น