วันเสาร์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2555

คืนหนึ่ง/ซอยสอง/เพศที่สาม/ชายสี่



        ห้าทุ่มคืนวันศุกร์ สำหรับผู้ชายที่เป็นแฟมิลี่แมน ก็คงจะกลับบ้านนอนดูหนังสักเรื่องหรือไม่ก็ผล็อยหลับไปข้างๆ ภรรยาหรือลูก หรือถ้าเป็นหนุ่มนักเที่ยว เวลานี้ราตรีก็เพิ่งจะเริ่มต้น ยังค้นหาสาวๆ สวยๆ ได้อีกนาน ถ้าโชคดีก็อาจจะเจอคนใจตรงกันและกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนแค่คืนเดียว

         แต่ห้าทุ่มของวันศุกร์วันนั้น ผมอยู่ที่สีลมซอยสอง เอาเป็นว่าถ้าจะพูดให้ชัดๆ กว่านั้นก็คือ ผมอยู่ในบาร์เกย์ครับ!

          ไม่ได้ตั้งใจจะลองของแปลกหรือเพิ่งมาค้นพบตัวตนที่แท้จริงตอนมีครอบครัวแล้วหรอกครับ แต่ผมถูกเพื่อนเก่าหลอกมา เพื่อนผมคนนี้เป็นเกย์ครับ เราเรียนจบวิศวะด้วยกันมา ในตอนนั้นเพศรสของมัน ใครมองก็คงยังก้ำกึ่งๆ ว่าตกลงมันมาแนวไหน คน สัตว์หรือสิ่งของกันแน่

แม้กระทั่งคืนนั้นที่ผมได้พบเพื่อนผมคนนี้อีกครั้ง หลังจากไม่ได้เจอกันน่าจะเกือบๆ สิบปี ก็ยังดูไม่ออกอยู่ดีว่าตกลงมันเป็นเกย์จริงๆ หรือนี่

คืนนั้นเรานัดกินข้าว เพราะเห็นว่าไม่ได้เจอกันนานแล้ว ไอ้เพื่อนผมคนนี้ก็เสนอว่ามันจะไปเที่ยวสีลมอยู่แล้ว แถวนั้นมีร้านเงียบๆ นั่งกินไปคุยไปได้ เพราะผมรีเควสต์ไปว่าอยากได้ร้านเงียบสงบ เพราะไม่อยู่ในวัยที่จะชอบเข้าร้านเปิดเพลงเสียงดัง แล้วต้องมาตะโกนคุยกัน เราก็เลยตกลงว่าจะมาเจอกันที่สีลม สรุปว่าคืนนั้นมีผม เพื่อนเกย์คนนี้ และเพื่อนอีกคนที่เพิ่งเลิกกับแฟน

สี่ทุ่มครึ่งเราทั้งหมดก็มาเจอกันที่ร้านฟาสต์ฟู้ดหัวถนนสีลม เพื่อนเกย์ผมบอกว่าเดินเล่นกันก่อนดีกว่า ยังไม่ดึกเท่าไหร่ ผมตอบตกลง เราสามคนเดินดูเสื้อ นาฬิกา น้ำหอม ดีวีดีโป๊ไปเรื่อยๆ 

จู่ๆ เพื่อนผมมันก็ชวนวกกลับทางเดิมที่เดินมา แล้วพอผ่านซอยสอง มันก็ดึงผมกับเพื่อนอีกคนเข้าไปในซอยนี้ บอกว่าเข้ามาเถอะสนุกแน่ๆ

จริงๆ ผมก็พอจะได้ยินกิติศัพท์มาบ้างว่าสีลมซอยสองคือศูนย์รวมชุมชนเพศที่สาม แต่ไม่คิดว่าจะเยอะขนาดนี้ ผมเดินตามเพื่อนเข้าไปในร้านอย่างงงๆ สองข้างทางล้วนเป็นผับบาร์สไตล์ต่างๆ กันไป เพื่อนผมไม่ต้องตรวจบัตรหรือตรวจอะไรทั้งสิ้น เพราะมันมาบ่อยจนใครๆ ก็รู้จัก เรียกว่าเป็นผู้กว้างขวางก็ได้

ผมกวาดสายตาไปรอบๆ ไม่เจอผู้หญิงสักคน มีแต่ผู้ชายและผู้ชาย แต่คนก็ยังไม่เยอะเท่าไหร่ เพื่อนเกย์ผมบอกว่าอีกไม่เกินชั่วโมง รับรองว่าที่โล่งๆ ที่เรายืนอยู่จะแทบไม่มีที่เดิน

คืนนั้นผมได้เรียนรู้ว่าเกย์มีหลายแบบจริงๆ มีตั้งแต่พวกที่ดูออกง่ายๆ เช่น หน้าหวานจิ้มลิ้ม หรือพวกนักกล้ามฟิตเนสที่ชอบใส่เสื้อรัดๆ ผมตั้งๆ มาจนถึงเกย์แนวๆ ออกไปทางครีเอทีฟ พวกนี้มักจะใส่แว่นกรอบดำหรือไม่ก็แว่นกรอบขาว ใส่เสื้อยืดรัดรูป กางเกงรัดๆ เรื่อยมาจนถึงเกย์ที่ไม่น่าจะเป็นเกย์ได้ เพราะดูเหมือนทหารไว้หนวดไว้เครา รวมไปถึงบรรดาเกย์ชราทั้งหลายที่มักจะนั่งนิ่งๆ ตามโต๊ะ สายตาสอดส่องมองเด็กๆ

เที่ยงคืนตรง มีการแสดงบนเวที เป็นโชว์คล้ายๆ ที่เราพบเห็นตามอัลคาซ่า ทิฟฟานี่ มีบรรดากระเทยแต่งตัวเป็นผู้หญิงออกมาลิปซิงค์เพลงชาติของเกย์ไม่ว่าจะเป็น Can’t Take My Eyes Off You, I Will Survive, ฉันก็เป็นผู้หญิง 

ผมยืนดูติดขอบเวที ทึ่งในความสามารถของพวกเธอที่แสดงแบบทุ่มสุดตัว ทั้งๆ ที่อาจจะแสดงซ้ำๆ แบบนี้มาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง มีทั้งโชว์แบบสวยๆ โชว์แบบตลกโปกฮา กระเทยคนหนึ่งที่ไปฉีดนมมาแล้ว ถึงกับเปิดเต้าโชว์แล้วสะบัดนมไปมาตามจังหวะเพลง

รู้ตัวอีกทีผมก็มาอยู่บนเวทีแล้ว 
เปล่าครับเปล่า ไม่ได้ขึ้นไปโชว์อะไร แต่อย่างที่บอกว่าเพื่อนเกย์ผมมันเป็นป๋าของที่นี่มากๆ พอการแสดงจบดีเจก็เปิดเพลงให้ทุกคนเต้น แต่เราไม่ชอบเบียดก็เลยหลบขึ้นมาบนเวทีข้างๆ บูทดีเจ ซึ่งแน่นอนว่าดีเจก็เป็นกระเทย

เมื่อมองจากมุมสูง ผมรู้สึกว่าอันที่จริงแล้วบาร์เกย์ก็ไม่ได้แตกต่างจากผับบาร์ของหญิงชายทั่วไป ออกจะสนุกสนานกว่าด้วยซ้ำ เพราะผับบาร์ทั่วไปหญิงชายล้วนมาปลดปล่อยความเครียดจากการทำงาน แต่ที่นี่ นอกจากเรื่องความเครียดในที่ทำงานแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่บรรดาขาแอบทั้งหลายได้ปลดปล่อยอาการแบบเต็มที่ กรี๊ดกราดได้แบบไม่ต้องแคร์สื่อ เหมือนเพื่อนผมคนนี้ที่หน้าฉากเป็นวิศวกรหนุ่มมาดแมนเคร่งขรึม แต่ยามราตรีก็มาเบ่งบานที่ซอยสอง

ตีสองกว่าๆ ผมกับเพื่อนชายแท้ทั้งแท่งขอตัวมาก่อน ปล่อยให้เพื่อนเกย์ยังคงสนุกสนานในโลกสีม่วงต่อไป ผมกับเพื่อนชายแท้มานั่งกินชายสี่บะหมี่เกี๊ยวกันเพื่อรอให้สร่างเมา 

ผมเอ่ยถามเพื่อนขึ้นมาว่า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงวะว่าคนไหนคือเกย์ที่เป็นชาย คนไหนคือเป็นเกย์ที่เป็นหญิง
เพื่อนผมตอบง่ายๆ ว่า “ไม่เห็นจะยาก ก็ดูตอนเข้าห้องน้ำในบาร์เกย์ไง เกย์คิงก็เข้าห้องน้ำชาย เกย์ควีนก็เข้าห้องน้ำหญิง
เออ จริงของมันครับ 
และนั่นแหละประสบการณ์ซอยสองครั้งหนึ่งในชีวิตของผม ที่หวังว่าคงจะไม่มีครั้งที่สองอีก
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ กลัวติดใจ (ฮา)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น